แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ (13 สิงหาคม พ.ศ. 2494 — 16 เมษายน พ.ศ. 2552) อดีตนักมวยแชมป์โลกชาวไทย รุ่นซูเปอร์ไลท์เวท (140 ปอนด์) ของสภามวยโลก (WBC) เป็นชาวตำบลสะเดียง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ แสนศักดิ์ เป็นนักมวยที่มีช่วงแขนยาวกว่าปกติ และมีหมัดซ้ายหนักโดยธรรมชาติ นับเป็นแชมป์โลกชาวไทยคนที่ 5 และเป็นนักมวยแชมป์โลกรุ่นใหญ่ที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา นอกจากนี้แสนศักดิ์ยังเป็นเจ้าของสถิติโลก ที่ชกมวยสากลเพียง 3 ครั้งก็ได้ครองตำแหน่งแชมป์โลกอีกด้วย
เนื้อหา
และจากการที่ชกสากลชนะน็อกรวดอย่างนี้ ทำให้ "พญาอินทรี" เทียมบุญ อินทรบุตร วางแผนร่วมกับสนอง รักวานิช ให้แสนศักดิ์ชกเพียง 3 ครั้งได้เป็นแชมป์โลก เพราะมั่นใจในพลังหมัด เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหมัดซ้าย ที่เรียกกันว่า "บันได 3 ขั้น" ซึ่งสถิติการชกเพียงระยะสั้นแค่นี้ กลายเป็นสถิติโลกมาจนปัจจุบัน(ต่อมา วาซิล โลมาเชนโก นักมวยชาวยูเครนก็ทำสถิติชกเพียง 3 ครั้งได้แชมป์โลกเช่นกันเมื่อปี พ.ศ. 2557 ขององค์กรมวยโลก (WBO) รุ่นเฟเธอร์เวท (126 ปอนด์)) แสนศักดิ์ได้แชมป์โลกสภามวยโลก (WBC) ในรุ่นไลท์เวลเตอร์เวท ในการชกครั้งที่ 3 โดยชนะทีเคโอ (ยอมแพ้) ยก 8 เปริโก เฟร์นันเดซ นักมวยชาวสเปน ในปี พ.ศ. 2518 แต่แสนศักดิ์ป้องกันตำแหน่งแชมป์ไว้ได้เพียงครั้งเดียว โดยการเอาชนะน็อก เท็ตสึโอะ 'ไลออน' ฟูรูยามะ นักมวยชาวญี่ปุ่นเท่านั้น จากนั้นได้ไปป้องกันตำแหน่งกับ มิเกล เบลัซเกซ นักมวยชาวสเปน ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน แสนศักดิ์ถูกจับแพ้โดยการตัดสิทธิ์การชก หรือ Disqualification (DQ) ในยกที่ 4 เนื่องจากไปชกเบลัซเกซล้มลงในช่วงระฆังตีบอกยกหมดเวลา เสียแชมป์โลกทันที ฝ่ายไทยพยายามประท้วงแต่ก็ไม่เป็นผล
อีก 4 เดือนต่อมา แสนศักดิ์จึงได้โอกาสแก้มือที่ประเทศสเปนอีกครั้ง คราวนี้ แสนศักดิ์เป็นฝ่ายชนะทีเคโอไปเพียงแค่ยกที่ 2 ได้กลับมาเป็นแชมป์โลกในสมัยที่ 2 จากนั้น แสนศักดิ์ได้ป้องกันตำแหน่งไว้ได้หลายต่อหลายครั้ง และบางครั้งเป็นไฟต์แห่งความทรงจำที่ยังคงตรึงใจแฟนมวยอยู่จนทุกวันนี้ เช่น ชนะทีเคโอ มอนโร บรูกส์ นักมวยชาวอเมริกันไปอย่างสุดมัน ในยกที่ 15 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ชนะคะแนน ซาอูล แมมบี นักมวยชาวอเมริกันอีกคนที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น
แต่การที่ชนะแมมบีได้นั้น แสนศักดิ์ก็บอบช้ำเป็นอย่างมากจากน้ำหนักหมัดของแมมบี้ โดยสื่อมวลชนบางรายเชื่อว่า การชกครั้งนี้ได้มีการกำหนดผลไว้ล่วงหน้าแล้วจากเทียมบุญ อินทรบุตร โปรโมเตอร์ผู้จัดการแข่งขัน กับ โลเป ซาเรียล โปรโมเตอร์ร่วมชาวฟิลิปปินส์ และเชื่อว่าสภาพดวงตาของแสนศักดิ์ที่มีปัญหาก็เกิดมาจากการชกไฟต์นี้เอง
แสนศักดิ์ เสียแชมป์โลกในการป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 8 ของสมัยที่ 2 กับ คิม ซาง ฮุน นักมวยชาวเกาหลีใต้ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2521 ถึงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ถิ่นของผู้ท้าชิงเอง โดยแพ้ทีเคโอไปในยกที่ 13 เนื่องจากสภาพร่างกายของแสนศักดิ์ไม่แข็งแกร่งเหมือนเก่า และสายตาก็เริ่มมีปัญหา จากนั้นแสนศักดิ์ได้ไปชกนอกรอบที่ประเทศฟิลิปปินส์ก็แพ้นักมวยเจ้าถิ่นอีก และอีก 3 เดือนต่อมา ก็บินไปชกที่สหรัฐอเมริกากับ โธมัส เฮิร์นส์ ซึ่งเป็นดาวรุ่งในขณะนั้น ซึ่งแสนศักดิ์ไม่อาจสู้อะไรเฮิร์นส์ได้เลย เป็นฝ่ายแพ้น็อกไปในยกที่ 3 แสนศักดิ์ชกมวยครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. 2524 ที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยเป็นโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันเอง โดยเป็นการชิงแชมป์ภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิก (OPBF) กับนักมวยชาวเกาหลีใต้ แต่ก็แพ้คะแนนขาดลอยอีก จึงต้องแขวนนวมไปในที่สุด
ไอ้แสบ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ หลังแขวนนวม
แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ มีชื่อที่แฟนมวยรู้จักว่า "ไอ้แสบ" และมีฉายาว่า "ซ้ายสีชมพู" ซึ่งเป็นการตั้งโดย เทียมบุญ อินทรบุตร โปรโมเตอร์ประจำของแสนศักดิ์ (เดิมมีฉายาว่า ซ้ายทะลายโลก) แสนศักดิ์ เป็นคนมีบุคคลิกเฮฮา มีสีสัน ช่วงที่แสนศักดิ์เป็นแชมป์โลก นับได้ว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังคนหนึ่งไม่ต่างอะไรกับพระเอกภาพยนตร์เลยทีเดียว เช่น ไม่ว่าจะทำอะไรหรือไปป้องกันตำแหน่งที่ไหน นักข่าวโดยเฉพาะ หนังสือพิมพ์ต้องตามไปทำข่าวถึงที่นั่น เล่ากันว่าถึงขนาดจับเครื่องบินกลับกรุงเทพ ฯ ส่งต้นฉบับแทบไม่ทันเลยทีเดียว เรื่องนี้เป็นที่รู้กันดีในหมู่นักข่าวร่วมสมัย และถึงขนาดที่ เพลิน พรหมแดน นักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดังเคยทำเพลงพูดล้อเลียนเกี่ยวกับแสนศักดิ์ชื่อว่า "ศึกไอ้แสบ"
และการที่เป็นคนเฮฮาแบบนี้ ทำให้แสนศักดิ์ ได้ภรรยาคนแรกในชีวิตคือ "ปริม ประภาพร" ดาราสาวดาวยั่วชื่อดังในสมัยนั้น และมีลูกชายที่เกิดกับภรรยาคนนี้คือ "เกรียงศักดิ์ มั่นศรี" ซึ่งแสนศักดิ์เป็นคนตั้งเอง โดยให้ตรงกับชื่อนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น (พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์) และมีชื่อเล่นว่า "คิง"
นอกจากนี้แล้ว ในระหว่างที่แสนศักดิ์มีชื่อเสียงอยู่นั้น กลุ่มผู้สนับสนุนแสนศักดิ์คือ เทียมบุญ อินทรบุตร ยังได้ผลักดันนักมวยอีกรายให้เดินตามรอยของแสนศักดิ์ โดยให้ชกในรุ่นเดียวกัน ไว้หนวดและทรงผมแบบเดียวกับแสนศักดิ์ คือ "ต้องตา เกียรติวายุภักษ์" แต่ไม่ประสบความสำเร็จเมื่อได้ชิงแชมป์โลกของสถาบันสมาคมมวยโลก (WBA) แต่เป็นฝ่ายแพ้น็อกอันโตนิโอ เซร์บันเตส นักมวยชาวโคลัมเบียไปในยกที่ 6 ที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อปี พ.ศ. 2521
หลังแขวนนวมเพราะสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิมและมีปัญหาด้านสายตาอีก อันเนื่องจากบอบช้ำจากการชกมวย แสนศักดิ์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบาก เพราะนับจากเสียแชมป์โลกครั้งสุดท้ายไปแล้ว เงินทองที่เคยมีอยู่นับ 10 ล้านที่เคยเก็บหอมรอบริบจากการชกมวยก็ร่อยหรอ ผู้จัดการที่ปลุกปั้นมา คือ สนอง รักวานิช ก็เสียชีวิต กลุ่มผู้สนับสนุนก็ทยอย ๆ จากไป หนำซ้ำยังโดนหลอกจากเพื่อนฝูงและคนรู้จัก รวมถึงคนในวงการมวยด้วย การชกครั้งสุดท้ายของแสนศักดิ์ ซึ่งเป็นขึ้นชิงแชมป์ในรุ่นเวลเตอร์เวท (147 ปอนด์) ของสหพันธ์มวยภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิก (OPBF) เจ้าตัวถึงขนาดลงทุนเป็นโปรโมเตอร์เอง แต่ก็ขาดทุนอีก อีกทั้งยังเป็นฝ่ายแพ้คะแนนอีกด้วย รวมทั้งเคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคชาติไทย ที่เพชรบูรณ์ บ้านเกิด ก็ไม่ได้รับเลือก
จนในที่สุด สายตาข้างขวาที่มีปัญหาของแสนศักดิ์ก็บอดสนิท ส่วนตาข้างซ้ายได้รับการผ่าตัดจนมองเห็นได้ ต้องขอรับความช่วยเหลือจากการกีฬาแห่งประเทศไทยเดือนละ 7,500 บาท และจากสภามวยโลกอีกเดือนละ 9,000 บาท บั้นปลายชีวิตได้อาศัยอยู่กับนางสาวศศวรรณ ดาวัลย์ ภรรยาใหม่และมีลูกสาวบุญธรรมคือ นางสาวปานวาด มั่นศรี
- เหรียญทองกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 7 พ.ศ. 2516 ที่สิงคโปร์
- แชมป์โลก WBC รุ่นไลท์เวลเตอร์เวท
- แชมป์โลก WBC รุ่นไลท์เวลเตอร์เวท (สมัยที่ 2)
- เคยชิงแชมป์ต่อไปนี้แต่ไม่สำเร็จ
- ชิงแชมป์ OPBF รุ่นเวลเตอร์เวทเมื่อ 5 ธ.ค. 2524 แพ้คะแนน ฮวาง ชุงแจ (เกาหลีใต้) ที่ จ.ร้อยเอ็ด
- กล่าวกันว่านามสกุลของแสนศักดิ์ ได้สร้างแรงดลบันดาลใจให้แก่ มาโคโตะ นิวาโนะ ซึ่งเป็นนักเขียนการ์ตูนชาวญี่ปุ่น ในการออกแบบตัวละคร ครุฑ เมืองสุรินทร์ ซึ่งเป็นนักมวยไทยในการ์ตูนเรื่อง ลุยแหลกเกินหลักสูตร ซึ่งเป็นหนังสือมังงะที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น
หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ลงข่าว แสนศักดิ์ ชนะ เปริโก เฟร์นันเดซ ยก 8 ได้แชมป์โลกครั้งแรก
Saensak vs moreno.jpg
การชกระหว่าง แสนศักดิ์ กับ ฟรันซิสโก โมเรโน
ป้ายโฆษณาการชกของ แสนศักดิ์ กับ ฟรันซิสโก โมเรโน ที่จังหวัดสงขลา
- รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ออกอากาศวันที่ 16 เมษายน 2552
- หนังสือ 22 แชมป์โลกชาวไทย (พ.ศ. 2538) สำนักพิมพ์ดวงตา
- . ผู้จัดการออนไลน์. 25 August 2014. สืบค้นเมื่อ26 August 2014.
- เทพชัย หย่อง. บทสุดท้ายทีวีเสรี. กรุงเทพมหานคร : เนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป, บมจ., 2544. 254 หน้า. หน้า 63-64. ISBN 9743924884
- . สยามดารา. 22 April 2009. สืบค้นเมื่อ10 October 2014.
- หนังสือ 22 แชมป์โลกชาวไทย โดย สำนักพิมพ์ดวงตา (พ.ศ. 2538)
- (อังกฤษ)
